Last updated: 7 มิ.ย. 2567 | 440 จำนวนผู้เข้าชม |
ทุกคนรู้มั้ยคะว่าสุขภาพและลำไส้เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากลำไส้ไม่ได้เป็นเพียงอวัยวะที่ย่อยและดูดซึมสารอาหารเข้าสู่กระแสเลือด แต่ยังมีบทบาทสำคัญต่อร่างกายในด้านความงามและสุขภาพด้วย มาทำความรู้จักหน้าที่ของลำไส้และข้อปฏิบัติเพื่อดูแลลำไส้ให้มีสุขภาพดีกันค่ะ
หน้าที่สำคัญของลำไส้
นอกจากลำไส้จะเป็นแหล่งที่ย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารเข้าสู่กระแสเลือดแล้ว ก็เป็นแหล่งสร้างเซลล์คุ้มกันของร่างกาย โดยพบว่าร้อยละ 60 ของเซลล์ภูมิคุ้มกันของร่างกายจะถูกสร้างมาจากลำไส้ หากลำไส้ไม่สะอาดของเสียจากอาหารที่ค้างและจากระบบเผาผลาญพลังงานจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ส่งผลให้เลือดหนืดข้น และทำให้เกิดการสะสมของไขมันชั้นใต้ผิวและอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย การดูแลลำไส้ให้ดีจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงไม่ป่วยง่าย และมีผลในการเสริมให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดี ส่งผลให้ผิวพรรณดีและไม่อ้วนง่ายนั่นเองค่ะ
แล้วเราจะสามารถรู้ได้อย่างไรกันนะ…....ว่าลำไส้ของเรากำลังมีปัญหาหรือมีความผิดปกติ
ก็มาลองสังเกตอาการเบื้องต้นดังนี้ได้เลยนะคะ
1. ท้องอืด ท้องเฟ้อ
อาการเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้หลายคนมองข้าม แล้วหายามาทานให้มันจบๆ ไป จริงๆ ถ้าหากมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อบ่อยครั้ง กล่าวคือมากกว่า 1 ครั้งภายใน 1 อาทิตย์ ต้องมาพบแพทย์ เพราะลำไส้อาจทำการย่อยอาหารได้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
2. ท้องผูก
เมื่ออาหารไม่ย่อย หรือย่อยไม่ละเอียด ทำให้กากใยอาหารที่พร้อมจะขับถ่ายออกไปเป็นอุจจาระผิดปกติไปด้วย หากมีอาการท้องผูกอยู่บ่อยครั้ง อาจทำให้เสี่ยงเป็นโรคริดสีดวงทวารได้อีกต่างหาก
3. ร่างกายไม่แข็งแรง ภูมิต้านทานต่ำ
ถ้าเป็นหวัด ไม่สบาย อาจเป็นเพราะว่าสุขภาพของลำไส้คุณไม่สู้ดีด้วยก็ได้ เพราะระบบภูมิคุ้มกันส่วนใหญ่ก็อยู่ในระบบลำไส้ หากลำไส้ขาดความสมดุล ก็อาจทำให้ร่างกายขาดสมดุลไปด้วย ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันโรคต่ำลง
4. ซึม อ่อนเพลีย ไม่สดใส
อาการเหนื่อยง่าย เพลียง่าย อาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของลำไส้ เช่น โรคลำไส้รั่ว ดังนั้นหากมั่นใจว่าพักผ่อนเพียงพอ ไม่ได้ทำงานหนัก หรือเครียดจนเกินไป อาจเป็นเพราะความผิดปกติของลำไส้
5. ปวดท้องเฉียบพลัน
อาการปวดท้องที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างไร้สาเหตุ อาจเป็นผลมาจากการทำงานของลำไส้ที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันได้เช่นกัน สามารถเป็นไปได้ตั้งแต่มีแก๊สอยู่ในท้องมากเกินไป ไปจนถึงเป็นโรคลำไส้อักเสบ ลำไส้รั่ว หรือติดเชื้อในลำไส้ จนเป็นเหตุให้มีอาการอื่นๆ ตามมา เช่น คลื่นไส้ ถ่ายท้อง เป็นต้น
แล้วควรกินอย่างไร…ถึงจะดีต่อลำไส้ ?
1. รับประทานผัก ผลไม้ ให้พอเหมาะเป็นประจำทุกวัน ที่สำคัญควรเลือกผลไม้ที่ไม่หวานจัด และเน้นทานเป็นผลสด แทนการดื่มน้ำผลไม้เพราะอุดมไปด้วยน้ำตาลแถมเส้นใยยังน้อยกว่า
** ผักผลไม้ที่ดีต่อลำไส้ได้แก่ กล้วย แอปเปิ้ล มะละกอ มะนาว แครอท ใบกระเพรา หอมแดง ตะไคร้ พริกสด กระหล่ำปลี ผักใบเขียวต่างๆ ฯลฯ
2. รับประทานคาร์โบไฮเดรตที่ดีหรือคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ไม่ผ่านกรรมวิธีหรือการขัดสี อาทิ ข้าวกล้อง, ข้าวโอ๊ต, ธัญพืชต่างๆ เพราะนอกจากจะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุแล้ว ยังมีเส้นใยและกากอาหารที่ช่วยในการขับถ่ายด้วย
3. รับประทานโยเกิร์ต หรือดื่มนมก็สามารถช่วยได้ เนื่องจากจะไปเพิ่มจำนวนเชื้อจุลินทรีย์ที่ดีได้ แต่ควรเลือกซื้อแบบไขมันต่ำ และน้ำตาลต่ำจะดีกว่านะคะ
4. รับประทานอาหารเช้า เนื่องจากเป็นช่วงที่ลำไส้ใหญ่ทำงานได้ดีนั่นเองค่ะ
5. ควรหลีกเลี่ยงอาหารไขมันอิ่มตัวสูง อาหารฟาสต์ฟู้ดต่างๆ เพราะอาหารเหล่านี้มีเส้นใยอาหารน้อยมากเลยล่ะค่ะ
6. ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8-10 แก้ว เพื่อขับล้างสื่งที่ตกค้างในลำไส้ ช่วยให้สุขภาพดี ผิวพรรณสดใสอีกด้วย
ข้อปฏิบัติในการดูแลลำไส้ให้มีสุขภาพดีเพื่อสุขภาพกายและความงาม
4 ก.ย. 2567
12 ก.ย. 2567
12 ก.ย. 2567