Last updated: 9 พ.ย. 2566 | 797 จำนวนผู้เข้าชม |
เช็คสัญญาณที่กำลังบอกว่า ร่างกายคุณเริ่มมี ภูมิคุ้มกันต่ำ!
ช่วงนี้ปลายฝนต้นหนาว อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ตอนเช้าฝนตกหนัก ตอนบ่ายแดดเเรง ตอนเย็นเลิกงานรถติดฝุ่นมลภาวะก็เยอะ ในหนึ่งวันเราต้องเจอกับอะไรบ้าง การดูเเลใส่ใจสุขภาพของตัวเองถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ต้องบอกว่าการมีร่างกายที่แข็งแรง มีภูมิต้านทานที่แข็งแกร่ง ถือว่าเป็นลาภอันประเสริฐ เพราะระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System) เป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายที่ช่วยป้องกันและต่อต้านเชื้อโรคไม่ให้ทำร้ายสุขภาพเราได้ ทว่าหากการ์ดเราตก ภูมิคุ้มกันก็มีสิทธิ์ตกด้วยเช่นกัน แล้วอาการแบบไหนกันนะที่เรียกว่าระบบภูมิคุ้มกันต่ำ เสี่ยงต่ออาการเจ็บไข้ได้ป่วยง่าย ๆ ลองเช็กกันหน่อยไหมล่ะ
ระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System) ทำหน้าที่คอยต้านและกำจัดเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย การดูแลรักษาระบบภูมิคุ้มกันให้พร้อมสู้เอาไว้ จึงเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญนอกจากการตั้งการ์ดสูง ระมัดระวังตัวเอง อย่าให้ ภูมิคุ้มกันต่ำ แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ภูมิคุ้มกันต้านเชื้อไวรัสในร่างกายเรา…ตอนนี้ยังมีเพียงพอ?
รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา
เป็นหวัดบ่อย
แสบจมูก น้ำมูกไหลตอนเช้า
ท้องเสียง่าย แพ้อาหารบ่อย
ผื่นแพ้ ผิวหนังอักเสบ หรือเป็น เชื้อราบ่อย
สาเหตุที่ทำให้ ภูมิคุ้มกันต่ำ
สาเหตุที่ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ รวมถึง Unhealthy Lifestyle ที่หลายคนทำจนเคยชินค่ะ และอาจมีผลให้ร่างกายเสียสมดุลได้ เช่น
1. กรรมพันธุ์
ระบบภูมิคุ้มกันแรกเริ่มของเราได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อและแม่ ซึ่งหากพ่อ แม่ ป่วยง่าย หรือมีโรคประจำตัวบางอย่างที่ถ่ายทอดมาสู่ลูก เช่น โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ก็อาจทำให้ลูกมีร่างกายอ่อนแอ ระบบภูมิต้านทานไม่แข็งแรง จำเป็นต้องดูแลร่างกายให้ดี ๆ
2. พักผ่อนไม่เพียงพอ
การนอนไม่หลับ นอนน้อย หรือนอนอย่างไม่มีคุณภาพ จนทำให้ร่างกายไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ จะทำให้ระบบการทำงานของร่างกายแย่ลง โดยเฉพาะการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ต่าง ๆ และการหลั่งฮอร์โมนที่ส่งเสริมการเจริญเติบโต หรือการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
3. ขาดสารอาหาร
พฤติกรรมรับประทานอาหารไม่มีประโยชน์ เช่น ไม่ค่อยกินผัก ผลไม้ อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารและวิตามินที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เสี่ยงมีภูมิต้านทานต่ำได้
4. เครียด
ความเครียดเป็นตัวบั่นทอนสุขภาพอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว เพราะเมื่อเราเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมา และอาจส่งผลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ด้อยประสิทธิภาพลงได้ ดังนั้นต้องหาวิธีผ่อนคลายบ้าง
5. ติดหวานมากเกินไป
การกินน้ำหวาน ของหวาน หรืออาหารประเภทแป้ง เกินปริมาณที่ร่างกายควรได้รับบ่อย ๆ อาจส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงได้ โดยเฉพาะหากมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ภาวะนี้จะส่งเสริมให้ไวรัสเติบโตได้ดี เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้นด้วย
6. อ้วน
ในคนที่มีภาวะอ้วน มีค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 35 การทำงานของปอดจะลดลง และภูมิคุ้มกัน T-cell หรือเซลล์ภูมิต้านทานซึ่งมีหน้าที่ค้นหาและกำจัดเชื้อโรคแปลกปลอมที่ผ่านเข้าสู่ร่างกาย จะทำงานได้น้อยกว่าปกติ เสี่ยงต่อภาวะเจ็บป่วยเพิ่มขึ้น หรือเสี่ยงมีอาการรุนแรงมากขึ้นหากไม่สบาย
7. ขาดการออกกำลังกาย
การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานเป็นปกติได้ และช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นหากไม่ออกกำลังกายเลย ก็เสี่ยงที่ภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอ ป่วยได้ง่าย ๆ
8. สูบบุหรี่
สารพิษในบุหรี่สามารถทำลายเซลล์ปอด และยังมีฤทธิ์ลดสารอาหารที่สำคัญต่อการทำงานของร่างกายลงได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันด้วย
9. ดื่มแอลกอฮอล์
นอกจากจะทำให้มึนเมา ลดสติสัมปะชัญญะของนักดื่มแล้ว เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็มีส่วนทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ลดลง และยังให้โทษต่อร่างกายในอีกหลาย ๆ ด้าน เช่น ระบบประสาทและตับ เป็นต้น
10. ขาดการดูแลสุขอนามัย
การไม่รักษาความสะอาดทั้งกับตัวเองและสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย อาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายด้อยประสิทธิภาพลงเรื่อย ๆ
วิธีง่ายๆ ช่วยดูแลระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
การดูแลสุขภาพให้ดีในสถานการณ์แบบนี้แม้เป็นเรื่องยาก แต่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ เพราะเรายังสามารถเลือกตัวช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้ จากการปรับ Lifestyle ให้ร่างกายกลับมามีสมดุล และเน้นแต่สิ่งดีๆ มาบำรุงสุขภาพอยู่เสมอ โดยเริ่มต้นได้จาก 8 วิธีนี้เลยค่ะ
1. กินอาหารให้หลากหลาย
ไม่กินอาหารซ้ำๆ เดิมๆ เลือกกินอาหารให้ครบถ้วนทุกหมวดหมู่ เน้นผักใบเขียว ลดและเลี่ยงน้ำตาล กับ อาหารแปรรูป เพื่อรักษาสมดุล กรด-ด่างของร่างกาย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่ดี อาจจะฟังดูซ้ำซากนะคะ แต่ถ้าลองทำได้จริงๆ แล้วจะรู้เลยค่ะ ว่าคุ้มค่าสุดๆ
2. กินแร่ธาตุ Zinc ในทุกวัน
ไม่ว่าจะในรูปแบบอาหาร หรืออาหารเสริม แร่ธาตุ Zinc มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ไม่ติดเชื้อง่าย และยังช่วยต้านการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส และลดความรุนแรงของไวรัสได้ค่ะ ดังนั้น นอกจากวิตามินซี ที่หลายคนกินอยู่เป็นประจำแล้ว ขอให้นึกถึง Zinc อีกหนึ่งตัวนะคะ ที่จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายคุณแข็งแรงมากขึ้น
3. วิตามินดี ต้องมีให้เพียงพอ
นอกจากวิตามินดี จะบำรุงกระดูกและฟันแล้ว วิตามินดียังทำหน้าที่เป็นฮอร์โมนสำคัญ ที่มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันทั้งระบบ และยังมีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือดขาวหลายๆ ชนิด ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อ การเกิดโรคภูมิแพ้ รวมถึงโรคแพ้ภูมิตัวเองในระบบต่างๆ ได้อีกด้วยค่ะ
4. จัดการกับความเครียด
เพราะความเครียดส่งผลต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก ทำให้ภูมิคุ้มกันตก ซึ่งเมื่อภูมิคุ้มกันตกก็เป็นโอกาสให้โรคต่างๆ แสดงอาการออกมา รวมไปถึงโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อก็สูงขึ้นกว่าปกติ ดังนั้น แค่การรู้จักปล่อยวางให้มากขึ้น ก็ทำให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ
5. ให้ความสำคัญกับการนอนพักผ่อน
ระบบภูมิคุ้มกันและสุขภาพจะดีได้นั้น ช่วงเวลานอนหลับลึกเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ เพราะร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมา เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเอง
6. เติมวิตามิน เสริมภูมิคุ้มกัน
การปรับ Lifestyle อาจจะดูง่าย แต่ทำยาก ต้องค่อยๆ ปรับเปลี่ยนจนเป็นความเคยชินค่ะ ดังนั้น การมองหาตัวช่วยเสริมให้ร่างกายแข็งแรงไว้ก่อน จึงเป็นอีกทางเลือกที่ดี โดยการเลือกทานวิตามินที่มีที่มีส่วนช่วยในการเสริมความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากจะมี วิตามินซี Zinc และวิตามินดีแล้ว ควรเสริมวิตามินเอ วิตามินอี และโพรไบโอติกส์ ด้วยค่ะ นอกจากการเสริมวิตามินด้วยการรับประทานแล้ว การเลือกเสริมวิตามินผ่านทางสายน้ำเกลือ ( Vitamin IV drip ) สูตร Immune Booster ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำได้ง่าย รวดเร็ว และลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดต่อระบบทางเดินอาหารได้ในบางคนค่ะ
7. ตากแดดเพิ่มวิตามินดีให้ร่างกายบ้าง
แสงแดดไม่ได้เป็นตัวร้ายเสมอไป แต่หากเราตากแดดอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินดี ซึ่งเป็นวิตามินที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมไปบำรุงกระดูก ส่งเสริมให้ร่างกายแข็งแรง ดังนั้นจึงควรพาร่างกายออกไปเจอแดดบ้าง โดยเฉพาะในช่วง 06.00-09.00 น. และหลัง 16.00 น. เป็นต้นไป แสงแดดในช่วงเวลานี้จะไม่แรงมาก ปลอดภัยต่อผิว และเป็นช่วงที่มีวิตามินดีมาก หากอยากกระตุ้นภูมิคุ้มกันง่าย ๆ ก็อย่าลืมมาตากแดดวันละ 10-20 นาที นะคะ
8. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกาย อย่างน้อยสักวันละ 5-10 นาที แค่นี้ก็ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานได้แล้วนะคะ ลองเลือกกิจกรรมการออกกำลังกายที่สะดวก และเราถนัด ทำเป็นประจำทุกวัน นอกจากสุขภาพร่างกายจะเเข็งเเรงเเล้ว สุขภาพจิตใจก็ดีด้วย จะสดชื่นกระปรี้กระเปร่าตลอดวันเลยค่ะ
เสริมภูมิคุ้มกันง่ายๆได้โดยการดูเเลตัวเอง ปรับเปลี่ยน Lifestyle เดิมๆที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อที่เราจะมีสุขภาพที่ดี อย่าลืมดูเเลตัวเองในทุกๆวันด้วยอาหารเสริมดีๆ BioSyn ซินไบโอติกปรับสมดุลลำไส้เเละเป็นตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ด้วยความปราถนาดีจาก BioSyn Thailand
รับคำแนะนำด้านสุขภาพ และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญฟรี
Line : https://line.me/R/ti/p/@283kqubv
Inbox : m.me/BioSynThailand
Youtube : https://bit.ly/3Fyj83C
เรียบเรียง : BioSyn Thailand
ขอบคุณข้อมูลจาก : SciMath, โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, โรงพยาบาลกรุงเทพ, เฟซบุ๊ก Opass Putcharoen, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, SciMath
https://www.shorturl.asia/YzX1n
https://shorturl.asia/k2EnC
4 ก.ย. 2567
12 ก.ย. 2567
12 ก.ย. 2567