Last updated: 22 มิ.ย. 2566 | 1078 จำนวนผู้เข้าชม |
ประเมินอายุลำไส้กับ BioSyn
สัญญาณเตือน ลำไส้ผิดปกติ
ทุกคนเคยสังเกตกันไหมคะว่าจริงๆเเล้วโรคหลายๆโรคมักมากับอาหารการกิน และหนึ่งในอวัยวะที่มีอาการผิดปกติง่ายที่สุด ก็คือลำไส้ กว่าจะรู้ตัวว่าลำไส้มีปัญหา บางคนก็ทนทุกข์ทรมานทานยาที่แก้ปัญหาไม่ตรงจุดอยู่นาน จนสุดท้ายก็ต้องไปจบที่โรงพยาบาล แต่ถ้าหากเราสังเกตตัวเองเราก็จะไม่มีโรคอะไรมาเยือนได้ง่ายๆ ซึ่งสามารถสังเกตสัญญาณอันตรายที่เป็นอาการบ่งบอกว่าลำไส้ผิดปกติได้ดังนี้ค่ะ
ท้องอืด ท้องเฟ้อ
อาการเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้หลายคนมองข้าม แล้วหายามาทานให้มันจบๆ ไป จริงๆ ถ้าหากมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อบ่อยครั้ง กล่าวคือมากกว่า 1 ครั้งภายใน 1 อาทิตย์ ต้องมาพบแพทย์ เพราะลำไส้อาจทำการย่อยอาหารได้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
2. ท้องผูก
เมื่ออาหารไม่ย่อย หรือย่อยไม่ละเอียด ทำให้กากใยอาหารที่พร้อมจะขับถ่ายออกไปเป็นอุจจาระผิดปกติไปด้วย หากมีอาการท้องผูกอยู่บ่อยครั้ง อาจทำให้เสี่ยงเป็นโรคริดสีดวงทวารได้อีกต่างหาก
3. ร่างกายไม่แข็งแรง ภูมิต้านทานต่ำ
ถ้าเป็นหวัด ไม่สบาย อาจเป็นเพราะว่าสุขภาพของลำไส้คุณไม่สู้ดีด้วยก็ได้ เพราะระบบภูมิคุ้มกันส่วนใหญ่ก็อยู่ในระบบลำไส้ หากลำไส้ขาดความสมดุล ก็อาจทำให้ร่างกายขาดสมดุลไปด้วย ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันโรคต่ำลง
4. เซื่องซึม อ่อนเพลีย ไม่สดใส
อาการเหนื่อยง่าย เพลียง่าย อาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของลำไส้ เช่น โรคลำไส้รั่ว ดังนั้นหากมั่นใจว่าพักผ่อนเพียงพอ ไม่ได้ทำงานหนัก หรือเครียดจนเกินไป อาจเป็นเพราะความผิดปกติของลำไส้
5. ปวดท้องเฉียบพลัน
อาการปวดท้องที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างไร้สาเหตุ อาจเป็นผลมาจากการทำงานของลำไส้ที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันได้เช่นกัน สามารถเป็นไปได้ตั้งแต่มีแก๊สอยู่ในท้องมากเกินไป ไปจนถึงเป็นโรคลำไส้อักเสบ ลำไส้รั่ว หรือติดเชื้อในลำไส้ จนเป็นเหตุให้มีอาการอื่นๆ ตามมา เช่น คลื่นไส้ ถ่ายท้อง นั่นเองค่ะ
มาลองประเมินอายุลำไส้ตัวเองเพื่อเช็คว่าลำไส้ของเรายังดีอยู่ไหมนะ หรืออยู่ในขั้นไหนเเล้ว เเบบประเมินนี้เป็นการประเมินเบื้องต้นเท่านั้นนะคะ
ให้ทุกคนเลือกสิ่งที่ตรงกับตัวคุณเอง จะกี่ข้อก็ได้นะคะ
1.นิสัยการดื่ม-กิน
2.การขับถ่าย
3.สภาพความเป็นอยู่
4.รวมคะเเนน ทุกคนได้ทั้งหมดกี่ข้อกันคะ
ระบบลำไส้เป็นอีกระบบหนึ่งในร่างกายที่สำคัญ ดังนั้นควรใส่ใจให้ความดูแลด้วยการทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ให้ตรงเวลาทั้ง 3 มื้อเป็นประจำ เลือกทานเฉพาะอาหารที่สะอาดถูกหลักอนามัย ไม่อดอาหาร หรือทานมากจนเกินไป รวมไปถึงหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด และอาหารดิบ เเละเติมโพรไบโอติกให้กับลำไส้ เพื่อเสริมจุลินทรีย์ดีเข้าไปช่วยปรับสมดุลให้สุขภาพลำไส้ ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโพรไบโอติกมากมาย เเต่เราจะเลือกยังไงให้ทานเเล้วเห็นผล ทานเเล้วสุขภาพลำไส้ดีจริงๆ วันนี้เราก็มีเคล็ดลับวิธีเลือกมาบอกให้กับทุกคนด้วยนะคะ
How to เลือกผลิตภัณฑ์โพรไบโอติก
1. ประกอบไปด้วยเชื้ออะไรบ้าง
โปรไบโอติกส่วนใหญ่ที่มีหลักฐานการวิจัยทางคลินิก มักจะมาจากเชื้อแบคทีเรียในตระกูล Lactococcus ตระกูล Lactobacillus และ ตระกูล Bifidobacterium
2. มีเชื้อกี่ชนิด และเชื้อแต่ละตัว มีหลักฐานการวิจัยทางการแพทย์ในด้านอะไรบ้าง
หลังจากที่พิจารณาตระกูลของเชื้อแล้ว ก็ควรดูในระดับสปีชีส์ พบว่า เชื้อในตระกูลเดียวกัน แต่คนละสปีชีส์ ก็จะมีบทบาทและหน้าที่ที่แตกต่างกัน เช่น บางตัวจะออกฤทธิ์โดยการไปแย่งที่กับเชื้อโรคจับกับผนังลำไส้ โปรไบโอติกบางตัวจะสร้างสารต้านเชื้อโรค ที่เรียกว่า bacterocin มากำจัดเชื้อโรค บางตัวจะสามารถสร้าง วิตามินและเอ็นไซม์ที่จำเป็นต่างๆต่อร่างกาย เช่น วิตามิน B, Folic acid, growth factor เป็นต้น นอกจากนี้ ยังพบว่า การมีหลายๆเชื้อ เช่น มากกว่า 2 เชื้อขึ้นไป จะให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า แต่ไม่ควรเกิน 10 เชื้อ เพราะพบว่า จะแข่งขันกันเอง ประสิทธิภาพลดลง
3. มี ใยอาหาร หรือ พรีไบโอติก หรือไม่
พบว่า การมีพรีไบโอติกหรือใยอาหาร จะช่วยเสริมฤทธิ์กับโปรไบโอติก ทำให้เชื้อเจริญเติบโตที่ลำไส้ได้รวดเร็วขึ้น
4. ผลิตจากบริษัทหรือโรงงานมาตรฐานหรือไม่
ควรผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน ระดับ GMP และ ISO 9001
5. ได้รับการรับรองจาก อ.ย.
ควรผ่านการพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญพิจารณาถึงคุณภาพและความปลอดภัย
6. ได้รับการรับรองให้ใช้ในโรงเรียนแพทย์และคลินิกชั้นนำหรือไม่
โรงเรียนแพทย์และโรงพยาบาลชั้นนำ จะมีขั้นตอนในการพิจารณาเลือกเวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่มีคุณภาพ ประสิทธิภาพและความปลอดภัยต่อผู้ป่วย โดยส่วนใหญ่มักจะมีขั้นตอนอย่างน้อย 3 ขั้นตอน ตั้งแต่ระดับอนุกรรมการผู้เชี่ยวชาญ จนถึง คณะกรรมการยาและการบำบัด
7. อุณหภูมิในการเก็บรักษา
พบว่า จะสัมพันธ์กับเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต พบว่า ถ้าใช้มาตรฐานการผลิตที่สูง ก็จะสามารถเก็บได้จนถึงที่อุณหภูมิห้อง โดยที่เชื้อยังมีชีวิตอยู่
8. ปริมาณเชื้อ
ควรมีปริมานเชื้ออย่างน้อย หนึ่งหมื่นล้าน CFU ขึ้นไป
9. รสชาติ
ไม่มีรสชาติหรือมีรสชาติที่ดี เนื่องจากสะดวกต่อการรับประทาน โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุ
10. ความสะดวก
เช่น การพกพาที่สะดวกมีขนาดที่สามารถใส่กระเป๋าใบเล็กๆไปได้ทุกที่ น้ำหนักเบา กระปุกไม่เเตกง่าย รวมถึงเก็บรักษาง่ายไม่ต้องเเช่ตู้เย็น อีกทั้งเป็นเเคปซูลไม่ต้องชงเองให้เสียเวลา เนื่องจากอาจจะกะปริมาณน้ำได้ไม่พอดี ทำให้ประสิทธิภาพอาจลดลงนั่นเองค่ะ
BioSyn ซินไบโอติกเจ้าแรกในไทยที่รวมเอาจุลินทรีย์ดีกว่า 15 สายพันธุ์ ‼ โพรไบโอติกบรรจุร่วมกับพรีไบโอติก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลลำไส้ให้กับคุณ ด้วยนวัตกรรมการผลิตเฉพาะของ BioSyn ที่อาหนิงคัดสรรมาด้วยตัวเอง ผ่านการยอมรับจากสถาบันวิจัยระดับโลก อย่าง SYNTEK ทำให้ได้โพรไบโอติกคุณภาพเยี่ยม สามารถทนต่อสภาวะกรด - ด่าง ในทางเดินอาหารได้อย่างดี แค่เพียง 1 แคปซูล ก็มีโพรไบโอติกถึง 20 Billion CFU ซึ่งเพียงพอต่อการช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ เมื่อลำไส้ดี ก็ทำให้เชื้อโรคต่างๆ ไม่สามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายได้โดยง่ายอีกด้วย อีกทั้งยังมั่นใจในความปลอดภัยเนื่องจาก BioSyn ของเรามีใบรับรองจาก อ.ย. เเละผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐานระดับ GMP และ ISO 22000 ปลอดภัยมั่นใจได้เลยค่ะ เริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ดี เริ่มต้นที่ลำไส้ ใช้ผลิตภัณฑ์ BioSyn นะคะ
รับคำแนะนำด้านสุขภาพ และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ
Inbox : m.me/BioSynThailand
Line : https://line.me/R/ti/p/@283kqubv
Youtube : https://bit.ly/3Fyj83C
เรียบเรียงโดย : BioSyn Thailand
ขอบคุณข้อมูลจาก : คุณหมอจากญี่ปุ่น Yoshimi BENNO / พญ.ปริยากร ปัทมินทร์ อายุรแพทย์ โรงพยาบาลหัวเฉียว
12 ก.ย. 2567
4 ก.ย. 2567
12 ก.ย. 2567