ป้องกันอาการ “ท้องเสีย ท้องร่วง” ในช่วงหน้าร้อน

Last updated: 7 มิ.ย. 2567  |  498 จำนวนผู้เข้าชม  | 

 ป้องกันอาการ “ท้องเสีย ท้องร่วง” ในช่วงหน้าร้อน

       ช่วงนี้อากาศร้อนมากๆ เลยนะคะ  สิ่งที่ต้องระวังนอกจากโรคลมแดดหรือฮีทสโตรกแล้ว ภัยเงียบใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้ามเลยนั้นก็คือ ปัญหาการเกิดอาการท้องเสีย ท้องร่วง นั้นเองค่ะ! ที่สาเหตุจากอาการร้อนจัดๆ จะกินจะทานอะไรก็มีผลต่อร่างกายไปสะเสียหมดในช่วงนี้ วันนี้ BHI - Bangkok Healthcare Innovation ขอมาแนะนำกับเจ้าปัญหา อาการเหล่านี้กันค่ะ #มีใครเป็นบ้างแล้วนะ ??

  อาการ “ท้องเสีย” หรือ “ท้องร่วง” เหมือนหรือต่างกันยังไง
          คำว่า "ท้องเสีย" เป็นภาษาพูดที่หมายถึงการที่คนเราถ่ายเหลวผิดปกติ แต่ในทางการแพทย์ จะใช้คำว่า "อุจจาระร่วง" (diarrhea) หรือคนปกติทั่วไปเรียกง่ายๆว่า "ท้องร่วง" ซึ่งความหมายต่างกับท้องเสีย เล็กน้อยนั่นเองค่ะ

ท้องเสีย – อาการที่เกิดจากเครื่องย่อยอาหารไม่น้ำที่ปกติ ทำให้ถ่ายอุจจาระกระปิดกระปรอย

ท้องร่วง – อาการที่ถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำอย่างรุนแรง ถ่ายอุจจาระเหลวผิดจากปกติ ตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไปใน 1 วัน หรือถ่ายอุจจาระเป็นน้ำหรือเป็นมูกเลือดแม้เพียงครั้งเดียวก็ถือว่าเป็นท้องร่วงได้ค่ะ

 ซึ่งการที่กำหนดเช่นนั้นก็เพื่อความสะดวกในการดูแลคนไข้ โดยคนไข้ที่มี อากาท้องร่วง มักจะเกิดจากโรคที่อาจจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาจากหมอ ขณะที่อาการท้องเสียเล็กน้อยไม่ถึงขั้นอุจจาระร่วงมักหายเองได้ โดยไม่ต้องรับการ ดูแลใดๆ

 ทำไมอาการท้องเสีย ท้องร่วง จึงพบได้บ่อยในหน้าร้อน
         เคยสังเกตไหมคะว่า..เมื่ออากาศร้อนๆ หรือช่วงหน้าร้อนนั้น อาหาร หรือของกินต่าง ๆหากปล่อยไว้โดยไม่ได้จัดเก็บให้ดี อาหารเหล่านั้นจะเริ่มบูด หรือเน่าเสียได้ง่ายขึ้น โดยเชื้อโรคและแบคทีเรียจะสามารถเข้าปะปนอยู่ในอาหารจะเจริญเติบโตได้ดี หากเราบังเอิญรับประทานเข้าไปก็จะทำให้เกิดอาการท้องเสียหรืออุจจาระร่วงตามมาได้ดังนั้นก่อนที่จะรับประทานอะไรในช่วงหน้าร้อนก็ควรเลือกดูให้ดี

  ข้อควรระวังอาการท้องเสีย ท้องร่วง

ก่อนเป็น
- การทานน้ำแข็งในเครื่องดื่มที่ไม่สะอาด                                                                                   

-การทานยำ ลาบ ส้มตำ ยิ่งใส่ปูดอง ปลาร้าที่ไม่ต้มสุก เนื้อสัตว์สุกๆดิบๆ ยิ่งต้องระวัง                      

- อาหารที่มีกะทิ อาหารหมักดอง อาหารทะเล อาหารบุฟเฟต์

-ระวังการสัมผัสโดนปาก การทานอาหารด้วยมือแบบไม่ใช้ช้อน

-ควรล้างมือบ่อยๆ ขับถ่ายในสุขภัณฑ์ที่ถูกสุขลักษณะ และล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้งหลังการขับถ่าย                                                                                                                                                                                

หลังเป็น
1.ห้ามรับประทานยาฆ่าเชื้อ เพราะบางทีท้องร่วงมีหลายสาเหตุ ไม่ได้เกิดจากเฉพาะเชื้อแบคทีเรีย แต่อาจเกิดจากเชื้อไวรัสซึ่งยังไม่มียาฆ่าเชื้อ ดังนั้น การกินยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียลงไปก็ไม่หาย สิ้นเปลืองเงินและอาจทำให้เชื้อดื้อยา

2.ห้ามรับประทานยาหยุดถ่าย การถ่ายเป็นกลไกของร่างกายในการขับเชื้อโรคและของเสียออกจากร่างกาย หากรับประทานยาหยุดถ่ายเข้าไปจะทำให้ลำไส้ทำงานน้อยลง จากเดิมที่ลำไส้เคยบิดตัวเพื่อไล่ของเสียออก ลำไส้ก็จะอยู่ นิ่งๆ ส่งผลให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโต เข้าสู่กระแสเลือดได้ดีขึ้น

 หากเกิดอาการบ่อยๆ ส่งผลเสียต่อระบบลำไส้มากน้อยเเค่ไหน
         อาจส่งผลให้เป็นลำไส้อักเสบ อาการที่พบได้บ่อยในโรคลำไส้อักเสบ คือ ท้องเสียหรือท้องร่วงร่วมกับปวดท้อง โดยอาการปวดท้องนั้นจะมีลักษณะแบบปวดบีบๆ นอกจากนั้นอาจมีอาการอื่นที่พบร่วมด้วย เช่น
-ลักษณะอุจจาระอาจเหลว เป็นน้ำ เป็นมูกหรือเป็นมูกเลือด
-มีไข้สูง หรือ ไข้ต่ำ รู้สึกหนาวสั่น
-คลื่นไส้ อาเจียน
-อ่อนเพลีย

 จุลินทรีย์ที่ช่วยในการฟื้นฟูท้องเสีย ท้องร่วง
         จุลินทรีย์หรือ Probiotics ที่มีในอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จะช่วยเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์สายพันธุ์ที่เป็นประโยชน์ และปรับสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ซึ่งส่งผลดีต่อร่างกายหลายด้าน ทั้งระบบย่อยอาหาร ระบบภูมิคุ้มกัน และอาจช่วยป้องกันโรคหรือความผิดปกติต่าง ๆ รวมทั้งเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ที่อยากลดการใช้ยาปฏิชีวนะด้วยนะคะ

        จุลินทรีย์ที่มีส่วนช่วยในเรื่องท้องเสียท้องร่วงคือ แล็กโทบาซิลลัส (Lactobacillus) เป็นแบคทีเรียกลุ่มที่คนทั่วไปคุ้นหูกันดี มักพบในโยเกิร์ต ของดอง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางยี่ห้อ ซึ่งแบ่งออกเป็นหลายสายพันธุ์ ส่วนใหญ่มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการท้องเสียและภาวะย่อยน้ำตาลแล็กโทสบกพร่อง เเละจุลินทรีย์ดีอีก1ตัวคือ บิฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium) เป็นแบคทีเรียที่มักพบในผลิตภัณฑ์นมอย่างโยเกิร์ตหรือชีส อาจมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาภาวะลำไส้แปรปรวน และความผิดปกติอื่น ๆนั่นเองค่ะ

         รู้อย่างนี้เเล้วก็ต้องรีบหาตัวช่วยดีๆในการปรับสมดุลให้ลำไส้กับ BioSyn ซินไบโอติกเจ้าแรกในไทยที่รวมเอาจุลินทรีย์ดีกว่า 15 สายพันธุ์ เเละหนึ่งในนั้นคือ แล็กโทบาซิลลัส (Lactobacillus) เเละ บิฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium)ที่กล่าวไว้ข้างต้น บรรจุร่วมกับพรีไบโอติก เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลลำไส้ให้กับคุณ ด้วยนวัตกรรมการผลิตเฉพาะของ BioSyn ที่ผ่านการยอมรับจากสถาบันวิจัยระดับโลก อย่าง SYNTEK  ทำให้ได้โพรไบโอติกคุณภาพเยี่ยม สามารถทนต่อสภาวะกรด - ด่าง ในทางเดินอาหารได้อย่างดี แค่เพียง 1 แคปซูล ก็มีโพรไบโอติกถึง 20 Billion CFU  ซึ่งเพียงพอต่อการช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ เมื่อลำไส้ดี ก็ทำให้เชื้อโรคต่างๆ ไม่สามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายได้โดยง่ายอีกด้วยนะคะ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้